กองทุนลดหย่อนภาษี 2566

5 เรื่องต้องรู้ก่อนลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษี 2566

0 Comments

กองทุนลดหย่อนภาษี 2566 อย่างกองทุน SSF หรือ RMF เป็นการลงทุนที่ได้รับความสนใจในกลุ่มนักลงทุนที่เป็นมนุษย์เงินเดือนทุกคน เนื่องจากมีความคุ้มค่า และได้รับประโยชน์จากหลายทาง ไม่ว่าจะเป็นการได้ออมเงินในระยะยาว การได้ลงทุนเพื่อต่อยอดผลกำไร และสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี ซึ่งก่อนที่นักลงทุนจะตัดสินใจลงทุนกับกองทุนประหยัดภาษีเหล่านี้ เรามาอ่านเรื่องควรรู้เกี่ยวกับกองทุนประเภทนี้กันก่อน เพื่อป้องกันความผิดพลาดในการลงทุน

5 เรื่องควรรู้ก่อนตัดสินใจ เกี่ยวกับกองทุนลดหย่อนภาษี 2566 

กองทุนลดหย่อนภาษี 2566 เป็นหนึ่งในหลากหลายรูปแบบการลงทุน ดังนั้นย่อมมีความเสี่ยงเป็นเรื่องธรรมดา นักลงทุนที่มีความคิดจะซื้อกองทุนชนิดนี้ ควรศึกษาถึงนโยบายของกองทุนแต่ละชนิดว่ามีรายละเอียดอย่างไร รวมไปถึงปรึกษากับเจ้าหน้าที่ของ บลจ. ที่ต้องการลงทุนด้วยทันทีเมื่อเกิดความสงสัย และศึกษาเรื่องควรรู้ต่อไปนี้ เพื่อให้การลงทุนมีประสิทธิภาพมากขึ้น

กองทุนลดหย่อนภาษี 2566
  1. กองทุนรวมก็มีความเสี่ยง

ดังที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า การลงทุนมีความเสี่ยง แต่คุณสามารถลดและกระจายความเสี่ยงได้ หากความเสี่ยงที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ในระดับที่คุณรับได้ หมายความว่า ในแต่ละผลิตภัณฑ์ของกองทุนรวม มีความเสี่ยงในระดับที่แตกต่างกัน อย่างกองทุนที่ลงทุนในหุ้นต่างประเทศจะมีความเสี่ยงสูง เพราะความผันผวนจะเกิดขึ้นตามสถานการณ์ของโลก หรือกองทุนที่ลงทุนในหุ้นเทคโนโลยี ความเสี่ยงก็จะขึ้นอยู่กับผลการประกอบการ และนโยบายการประกอบกิจการของธุรกิจนั้น ๆ 

นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่เกิดจากปัจจัยของตัวคุณเองด้วย เช่น จำนวนเงินลงทุน ประสบการณ์ในการลงทุน อายุที่เริ่มต้นลงทุน ความสนใจในข่าวสารต่าง ๆ และเป้าหมายในการลงทุน เป็นต้น ดังนั้นความเสี่ยงไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดี แต่เป็นเรื่องที่จะช่วยให้คุณมีความระมัดระวังมากขึ้น และช่วยให้คุณคัดเลือกกองทุนที่เหมาะสมกับคุณได้ 

  1. ต้องมีความรู้ พร้อมที่จะลงทุน

การลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษี 2566 ถึงแม้จะมีผู้จัดการกองทุนคอยบริหารการลงทุนให้ แต่ตัวคุณเองต้องมีความรู้ และความพร้อมในการลงทุนร่วมด้วย เพราะการลงทุนไม่ได้มีเพียงกำไรอย่างเดียว แต่ยังมีการขาดทุนรวมอยู่ด้วย ดังนั้นเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงการขาดทุน คุณต้องศึกษาหาความรู้ และสร้างประสบการณ์การลงทุนให้มากขึ้น และถ้าคุณยังไม่มีประสบการณ์การลงทุน ควรเริ่มต้นกับกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำไล่ไปจนถึงปานกลางก่อน อย่าเพิ่งรีบลงทุนในกองทุนที่มีความเสี่ยงสูง เพราะเรื่องของประสบการณ์ไม่เกี่ยวกับจำนวนเงินลงทุนว่ามากหรือน้อย แต่เกี่ยวกับผลการลงทุนว่ามีประสิทธิภาพหรือไม่ หากไม่มีเลย เงินเยอะก็กลายเป็นเงินหมดได้ 

  1. เมื่อเป็นกองทุนลดหย่อนภาษี ก็ต้องมีเรื่องของภาษีเข้ามาเกี่ยวข้อง

เมื่อเป็นกองทุนที่มอบสิทธิประโยชน์การลดหย่อนภาษีให้กับนักลงทุน สิ่งที่นักลงทุนควรทำก็คือ การศึกษาถึงข้อกำหนดในการลดหย่อนภาษี โดยในช่วงใกล้ ๆ สิ้นปี นักลงทุนควรยื่นสิทธิขอลดหย่อนภาษีต่อ บลจ. ที่ซื้อกองทุน และอย่าลืมแสดงความยินยอมให้ บลจ. ส่งข้อมูลของคุณไปยังกรมสรรพากรได้ หากคุณลืมแสดงความยินยอม บลจ. จะไม่สามารถส่งข้อมูลของคุณไปให้กรมสรรพากร เนื่องจากติดข้อกำหนดของกฎหมาย PDPA ที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

  1. กองทุน SSF แบบมีปันผล จะมีการหักภาษี ณ ที่จ่าย

กองทุนลดหย่อนภาษี 2566 มีนโนบายในการหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% ในกรณีที่คุณเลือกลงทุนกับ “กองทุนแบบจ่ายเงินปันผล” ที่คุณจะได้รับเงินสดในระหว่างการถือหน่วยการลงทุน ดังนั้นการจ่ายเงินปันผลจึงมีการหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% ด้วย แต่ถ้าคุณเลือกกองทุนแบบไม่จ่ายเงินปันผล จะไม่มีการหักภาษี ณ ที่จ่ายแต่อย่างใด ดังนั้นเลือกรูปแบบกองทุนตามเป้าหมายการลงทุนของตัวเท่านั้น จึงจะมีประสิทธิภาพ

  1. อย่าลืมตรวจสอบฐานภาษีของตัวเอง

ในช่วงสิ้นปีจะเป็นช่วงที่วุ่นวายสักหน่อยสำหรับนักลงทุนส่วนใหญ่ที่ต้องการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษี ดังนั้นควรตรวจสอบฐานภาษีของตัวเองให้เรียบร้อย และกองทุน SSF จะเป็นหนึ่งในตัวช่วยลดหย่อนภาษีได้ ด้วยข้อกำหนดสามารถลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของเงินได้ แต่ต้องไม่เกิน 200,000 บาท

5 เรื่องราวที่ไม่ยากเกินทำความเข้าใจสำหรับการลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษี 2566 ข้อมูลที่กล่าวมานี้จะช่วยให้นักลงทุนเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนมากขึ้น และสามารถเตรียมความพร้อมก่อนการลงทุนได้ ช่วยให้พอร์ตการลงทุนมีประสิทธิภาพ และสร้างผลตอบแทนที่ดี แต่อย่าลืมว่าเมื่อจัดพอร์ตได้ลงตัวแล้ว ต้องมีความรู้รอบตัวเป็นกลยุทธ์สำคัญด้วย จะยิ่งช่วยเสริมให้การลงทุนมีความราบรื่นมากขึ้น